HIFU คืออะไร?
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้คลื่นเสียงโฟกัสความเข้มข้นสูงส่งผ่านเข้าไปยังชั้นผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูยกกระชับ เรียบเนียน และอ่อนเยาว์ขึ้น
HIFU เหมาะกับใครมากที่สุด?
HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก หน้าผากย่น คางสองชั้น ใต้ตาคล้ำ และรูขุมขนกว้าง HIFU ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและจุดด่างดำได้อีกด้วย
ตารางเทียบ HIFU กับ Ulthera
HIFU และ Ulthera เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้งสองเทคโนโลยีมีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันดังนี้
คุณสมบัติ | HIFU | Ulthera |
---|---|---|
คลื่นเสียง | คลื่นเสียงความถี่สูง | คลื่นเสียงความถี่สูง |
ระดับความเข้มข้น | ระดับความเข้มข้นสูง | ระดับความเข้มข้นปานกลาง |
ผลลัพธ์ | ผลลัพธ์ชัดเจน | ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไป |
ระยะเวลาในการทำ | 30-60 นาที | 40-60 นาที |
จำนวนครั้งในการทำ | 1-2 ครั้งต่อปี | 1 ครั้งต่อปี |
ระยะเวลาในการเห็นผล | 3-6 เดือน | 6-12 เดือน |
ค่าใช้จ่าย | 5,000-20,000 บาท | 40,000-100,000 บาท |
ยกกระชับหน้าครั้งแรก
การยกกระชับหน้าครั้งแรกด้วย HIFU สามารถทำได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนในการทำ HIFU ดังนี้
- ทำความสะอาดผิวหน้า
- ทาเจลหล่อลื่น
- แพทย์จะทำการยิงคลื่นเสียงโฟกัสความเข้มข้นสูงไปยังบริเวณที่ต้องการยกกระชับ
- การทำ HIFU ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- หลังทำ HIFU สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ผลลัพธ์ของการยกกระชับหน้าด้วย HIFU จะปรากฏให้เห็นภายใน 3-6 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
การดูแลหลังทำ HIFU
หลังทำ HIFU ควรปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
- ทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- พักผ่อนให้เพียงพอ
ข้อควรระวังในการทำ HIFU
หลังทำ HIFU คุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการทาครีมที่มีส่วนผสมของน้ำหอม กรดผลไม้ และเรตินอลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันผิวระคายเคือง คุณควรดื่มน้ำให้มากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
HIFU เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำทุกครั้ง